ในวันที่ 31 ธันวาคม 1999 เป็นวันที่เราวิ่งเปลี่ยนจากศตวรรษที่ 20 มายังศตวรรษที่ 21 ในวันนั้น เราฉลองต้อนรับศตวรรษใหม่แบบมีความกังวลเล็ก ๆ เกี่ยวกับ Y2K ว่ามันจะทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ในโลกล่มสลายรึเปล่า ซึ่งท้ายที่สุดโลกเราก็ผ่านจุดนั้นมาได้อย่างราบรื่นแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ที่นี้พอเรามาอยู่ในศตวรรษที่ 21 แล้วล่ะ? การเดินทางในศตวรรษนี้มันช่างราบรื่นเหมือนตอนที่เราวิ่งผ่าน Y2K รึเปล่า?
ไม่เลย... ลองนึกย้อนดูว่าตั้งแต่เราเปลี่ยนมาสู่ศตวรรษที่ 21 มันมีเรื่องราวอะไรบ้าง ภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อง ๆ หลายประเทศต้องเจอกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้นจากการที่โลกของเรามีอุณหภูมิสูงขึ้น บางคนเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า "วิกฤตทางสภาพภูมิอากาศ (Climate Crisis)" แล้วด้วยซ้ำ นอกจากนี้ การเข้ามาถึงของเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ได้เปลี่ยนโฉมโลกของเราไป ไม่ว่าการใช้งานอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน ฯลฯ สังคมรอบตัวเราเองก็เปลี่ยนแปลงไป จากการเข้ามาของสื่อ Social Media ต่าง ๆ และล่าสุดเลย การระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจของทั้งโลกต้องชะงักงันลงเป็นเวลาหลายปี
การใช้ชีวิตอยู่บนโลกศตวรรษที่ 21 นั้นไม่ง่าย เราต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวเรา การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น ถี่มากขึ้น และผลกระทบกว้างมากขึ้นกว่าที่เราเคยเจอมาในอดีต ดังนั้น เราเองก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองตามโลกด้วยเช่นกัน ในปี 2020 ทาง World Economic Forum ได้สำรวจความคิดเห็นของบริษัทต่าง ๆ ใน The Future of Job Report 2020 ซึ่งบริษัทต่าง ๆ เห็นว่า 40% ของพนักงานของตนจะต้องผ่านเข้าสู่การเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ (Reskill) ดังนั้น การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) นั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21
แต่อย่างไรก็ตาม การที่เราได้มาใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21 นี้ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น เราจะได้เห็นอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวเรา เราจะเห็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ อีกมากมายตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในศตวรรษนี้ เราจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรา และนอกจากนี้ นี่เป็นช่วงเวลาที่เราเองก็สามารถที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่เราต้องการเห็นได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างนวัตกรรมขึ้นด้วยมือของเราเอง การสร้างสรรค์สังคมรอบ ๆ ตัวเราให้ดียิ่งขึ้น ฯลฯ
นี่เป็นยุคที่เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองตามโลกให้ทัน และเป็นยุคที่เราสามารถเข้าไปร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลกด้วย...
หลาย ๆ คนนิยามว่าศตวรรษที่ 21 นั้นคือโลกแห่ง "VUCA" (อ่านว่า วู-ก้า)
VUCA คืออะไร? VUCA เป็นศัพท์ที่เริ่มนำมาใช้ในแวดวงทหาร เพื่ออธิบายถึงสภาพสนามรบที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วน ชุลมุน วุ่นวาย มีความไม่แน่นอน (Uncertainty) ความผันผวน (Volatility) ความกำกวม (Ambiguity) และความซับซ้อน (Complexity) ซึ่งพอเอาตัวอักษรแรกของแต่ละคำมาเรียงกันก็จะได้คำว่า VUCA นั่นเอง
เจ้า 4 คำนี้ถ้าเราอ่านผ่าน ๆ จะเหมือนว่ามันคือสิ่งเดียวกัน แต่ความจริงแล้วแต่ละคำมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป เราลองมาดูกันว่าแต่ละตัวหมายถึงอะไรกันบ้าง...
ความรวดเร็วของการเปลี่ยนแปลง บางครั้งเกิดขึ้นอย่างฉับพลับแบบที่เราคาดไม่ถึง เช่น ราคาของเหรียญคริปโต บางทีก็ราคาสูง วันดีคืนดีก็ราคาตก หลาย ๆ ครั้งการคาดเดาสาเหตุที่แท้จริงทำได้ยาก หรือราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สามารถเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้อย่างรวดเร็วในบางครั้ง หรือมูลค่าหุ้่นที่สามารถกระโดดขึ้นหลายเท่าหรือลดมูลค่าลงจนเกือบไม่เหลืออะไรเลยในระยะเวลาอันสั้น
เราสามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้มากน้อยขนาดไหน อาจจะแม่นมากหรือน้อยแต่สุดท้ายแล้วจะไม่ถูกต้อง 100% อยู่ดีนั่นก็เพราะว่าเราไม่สามารถมีข้อมูลชัดเจนของทุก ๆ อย่างครบถ้วนในทุกกรณี มันจะมีอะไรบางอย่างอยู่เสมอที่เราไม่รู้ไม่แน่ใจ
มีปัจจัยหลายอย่างที่มีความไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าจะพัฒนาไปในทิศทางไหนกันแน่ จะส่งผลยังไงกับเรากันแน่ เช่น ถ้าเราจะเด
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกัน นี่คือความซับซ้อนที่มีอยู่บนโลกนี้ ปัญหาคือเราไม่เห็นถึงความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างองค์ประกอบบางอย่าง หรือไม่รู้ว่ามันเชื่อมโยงกันในลักษณะไหน เช่น เรารู้ว่า XXX เชื่อมโยงกับ XXX แต่ไม่รู้ว่ามันจะส่งผลยังไง เป็นต้น
การขาดความชัดเจนในการตีความอะไรบางอย่าง ยิ่งมีความกำกวมมากเราก็จะยิ่งตีความอะไรบางอย่างได้ยากขึ้น เช่น ถ้าเราทำการทดสอบโควิดแล้วเกิดได้ผลลบบ้าง บวกบ้าง อันนี้คือความกำกวมว่าเราติดโควิดอยู่รึเปล่า
"มาคอนเน็คกับเราซิ เพื่อคอนเน็คกับโลกแห่งศตวรรษที่ 21"
การใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21 นี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงจากศตวรรษที่ผ่านมา ยุคแห่งการเรียนรู้การประกอบอาชีพจากมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะเข้าสู่การทำงานประจำในที่แห่งใดแห่งหนึ่งไปจนเกษียณ โดยใช้ทักษะส่วนมากที่เรียนรู้มาจากมหาวิทยาลัย ได้จบลงแล้ว ในปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่าเราอาจจะมีการเปลี่ยนที่ทำงานและลักษณะงานที่เราทำถึง 7 ครั้งตลอดช่วงอายุของเรา เราไม่สามารถพึ่งพาทักษะและองค์ความรู้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งไปได้ตลอดชีวิตการทำงานของเรา การทำงานในศตวรรษที่ 21 ต้องอาศัยการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) การพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นมาตลอดเวลา เพื่อให้เราก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนในศตวรรษนี้
เราสร้างจักรวาลของ KonneXXi นี้ขึ้นมาเพื่อให้ทุก ๆ คน...
...มีความสุขในการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของเรา เพื่อการใช้ชีวิตและทำงานอย่างมีความสุขในศตวรรษที่ 21...
...Enjoy upskilling through our storytelling, enjoy living & working in the 21st Century...
ในจักรวาล KonneXXi เราอยากให้ทุกคนรู้จักกับอาชีพนึงที่เรียกว่า "Maritime Pilot" เพราะนี่เป็นบทบาทที่คล้ายกับสิ่งที่เรากำลังพยายามทำอยู่
ในเรือเดินสมุทรลำใหญ่ ๆ เราจะมีกัปตันเรือ (Captain) ทำหน้าที่ในควบคุมเรือ นำเรือให้แล่นไปในทิศทางที่เราต้องการ แต่เมื่อเรือแล่นผ่านบางน่านน้ำที่ยาก มีความซับซ้อนมาก ๆ เช่น น่านน้ำที่มีการจราจรหนานแน่น มีเรืออื่นวิ่งกันขวักไขว่เต็มไปหมด น่านน้ำมีกระแสน้ำรุนแรงที่อาจพัดพาให้เรือไปชนกับอะไรเข้าได้ หรือจุดที่ร่องน้ำมีความซับซ้อน อาจมีเนินแอบอยู่ใต้น้ำที่เราไม่รู้ มองไม่เห็น ซึ่งอาจทำให้เรือเราเกยตื้นได้ ฯลฯ
ในน่านน้ำที่ซับซ้อนเหล่านี้ กัปตันเรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว ในสถานการณ์แบบนี้ส่วนมากแล้วกัปตันเรือจะร้องขอ "Maritime Pilot" ขึ้นมาบนเรือ
Maritime Pilot ก็คือคนที่มีความรู้เรืื่องการเดินเรือ และรู้จักพื้นที่น่านน้ำนั้นเป็นอย่างดี ส่วนมากแล้ว Maritime Pilot ก็คือคนที่อยู่อาศัยในเมืองท่าใกล้ ๆ น่านน้ำนั้นนั่นแหล่ะ เลยจะรู้จักร่องน้ำอย่างละเอียด รู้ทิศทางกระแสน้ำ รู้เทคนิคในการเดินเรือผ่านส่วนยาก ๆ เมื่อกัปตันเรือร้องขอ Maritime Pilot ก็จะถูกส่งขึ้นไปขึ้นเรือ โดยอาจใช้เฮลิคอปเตอร์หรือเรือเล็กไปแล่นเทียบแล้วไต่บันได้ขึ้นเรือใหญ่ไป
เมื่อขึ้นมาบนเรือแล้ว Maritime Pilot จะคอยช่วยกัปตันในการเดินเรือผ่านพื้นที่ที่ซับซ้อนและยากลำบากนี้ คอยแชร์ข้อมูลที่ตนเองมีความเชี่ยวชาญให้แก่กัปตันเรือ ร่องน้ำอยู่ตรงไหนบ้าง มีจุดไหนต้องระวัง ในทางแคบ ๆ นี้จะต้องตั้งลำเรือยยังไง ฯลฯ ตลอดเวลาที่ Maritime Pilot อยู่บนเรือ จะคอยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาเพื่อให้คำแนะนำต่อกัปตันเรือ แม้ว่าบทบาทการควบคุมสั่งการบนเรือจะยังเป็นบทบาทของกัปตันอยู่ แต่กัปตันจะได้รับข้อมูลและคำแนะนำเป็นจำนวนมากจาก Maritime Pilot ที่จะช่วยให้เขาควบคุมเรือได้ดียิ่งขึ้น
หลังจากที่เรือวิ่งผ่านน่านน้ำที่ซับซ้อนไปได้แล้ว Maritime Pilot จะลงจากเรือนั้น เพื่อไปขึ้นเรือลำอื่นต่อ ทำหน้าที่ในการช่วยให้เรือทุก ๆ ลำสามารถแล่นผ่านน่านน้ำนั้นไปได้อย่างปลอดภัย
การใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21 ก็เหมือนการที่เราขับยานอวกาศท่องไปในกาแล็คซี่ที่เราไม่คุ้นเคย ไม่รู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าจะมีอะไรโผล่มาให้เราตกใจ
ในจักรวาลของ KonneXXi เราระบบดาวหลากหลายให้ทุกคนได้ลองเข้าไปสำรวจ เพื่อเสริมสร้างทักษะที่จะช่วยให้เราใช้ชีวิตและทำงานในศตวรรษที่ 21 ได้ดียิ่งขึ้น ในแต่ละระบบดาว เรามี Maritime Pilot ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในแต่ละระบบดาว ที่จะขึ้นไปบนยานอวกาศของเรา แล้วช่วยให้คำแนะนำที่จำเป็นกับเรา เพื่อให้สามารถบังคับยานอวกาศของเราผ่านห้วงอวกาศที่ซับซ้อนไปได้ ที่สำคัญคือ Maritime ของ KonneXXi เป็นเพียงคนที่ขึ้นไปนั่งเป็นเพื่อนเพื่อให้คำแนะนำคำปรึกษา หาเทคนิคอะไรต่าง ๆ มาให้เราช่วยในการขับยานอวกาศของเรา แต่สุดท้ายแล้วเราทุกคนเองเป็นผู้ที่ต้องขับยานอวกาศของเรา เลือกเส้นทางของเราเองโดยอาศัยข้อมูลและคำแนะนำที่ได้รับ
แล้วมันมีอะไรสำคัญ ๆ ให้เราเรียนรู้บ้าง ความจริงมีอะไรมากมายเลยทีเดียว
KonneXXi: Navigating the 21st Century
KonneXXi เป็นผู้ช่วยนำทางเพื่อสร้างความรู้่และทักษะที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตและทำงานอยู่ในศตวรรษที่ 21 ผ่านการบอกเล่าเรื่องราว (Storytelling) เพื่อเชื่อมโยงหลักการที่เป็นนามธรรมเข้ากับตัวอย่างและเรื่องราวต่าง ๆ